วันเสาร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2552

อนาคตของนาซ่า ในกำมือของโอบามา จะอยู่ใกล้โลกต่อไป หรือออกสำรวจอวกาศ

อนาคตของนาซ่า ในกำมือของโอบามา
Credit : http://www.spacenews.com/policy/white-house-handed-options-future.html

"เพิ่มงบให้นาซ่าหรือจะอยู่ภายใต่วงโคจรระดับต่ำไปอีกยุค"  คือสาระสำคัญของทางเลือกที่ประธานาธิบดีสหัฐ บารัก โอบามา จะต้องเลือกให้อนาคตของนาซ่า

นอแมน ออกัสติน (Norman Augustine) หัวหน้าฝ่ายบริหารของ บริษัท ล็อกฮีดมาติน ได้เสนอทางเลือกห้าทางเพื่อเป็นตัวเลือกให้แก่อนาคตของนาซ่า  จากทั้งหมด มีสามข้อที่จะมีภารกิจที่ออกไปสู่วงโคจรที่สูงกว่าวงโคจรระดับต่ำภายในอีก 20ปีข้างหน้า ทั้งสามข้อนี้มีความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มงบอย่างเป็นนัยสำคัญให้แกนาซ่าในช่วงห้าปีข้างหน้า

แม้ว่า ออกัสติน จะยื่นข้อเสนอสองข้อที่อยู่ในงบประมาณตามแผนที่โอบามาได้ตั้งไว้ก่อนหน้านี้คือ 18.6 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ แผนทั้งสองนี้จะไม่มีการนำนักบินอวกาศของนาซ่าออกไปสูงกว่าวงโคจรระดับต่ำของโลกภายในระยะเวลา20ปี

แผนแรกที่อยู่ภายในงบประมาณปัจจุบัน มีชื่อเรียกว่า "แผนงบประมาณจำกัด" นาซ่าจะทำการปลดระวางสถานีอวกาศนานาชาติ (international space staion, ISS) ในปี 2016 ทำการบินจรวด Ares1 และ พาหนะขนส่งลูกเรือโอไรออน ( Orion Crew Exploration) ในปีถัดไป และเลื่อน จรวดแรงขับสูง Ares 5 ที่มีความสำคัญต่อภารกิจสู่ดวงจันทร์ของนาซ่า สู่ระดับการพัฒนาที่ช้ากว่า ภายใต้แผนนี้ รายงานกล่าวว่า " Ares 5 จะไม่พร้อมไปจนถึงปี 2020 และที่แย่กว่านั้น มันยังไม่มีงบพอที่จะพัฒนา ส่วนลงจอดบนดวงจันทร์และระบบที่จะใช้บนดวงจันทร์ก่อนปี 2030 ถ้ามันจะมีล่ะก็นะ"

Ares1
อีกแผนนึงที่อยู่ภายใต้งบก็คือ ยกเลิกจรวด Ares1 สร้างจรวดที่มีความสามารถต่ำกว่า Ares5 และคง ISS ไว้จนถึงปี 2020  โดยพึ่งกระสวยอวกาศภาคธุรกิจที่ริเริ่มโดยนาซ่า (จ้างจรวดของชาวบ้านว่างั้น)  จรวดรุ่นใหม่  Ares5 lite จะเข้าประจำการในช่วงท้ายของปี 2020 แต่จะไม่มีอะไรจะส่งขึ้นไป

อีกสามข้อที่เหลือ จำเป็นจะต้องเพิ่มงบขึ้นไปถึง 22พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2014 ตามด้วยการเพิ่มงบขึ้นปีล่ะ 2.4เปอร์เซ็นต่อปี

AresV
ทางเลือกที่สาม คือ ขอเพิ่มงบและสร้าง Ares1 และ Orion ให้เสร็จ แม้ว่าจะช้ากว่ากำหนดปัจจุบันในปี 2015ไปสองปี และสร้าง Ares5ให้ทันที่จะส่งมนุษย์ไปดวงจันทร์ในกลางปี 2020 อย่างไรก็ตาม แผนนี้รวมถึงต้องปลดประจำการ ISS ในปี 2016 ห้าปีหลังจากเสร็จสิ้นการประกอบโครงการราคา แสนล้านดอลลาร์ ที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 1984 และเอาเงินที่ใช้บำรุงรายปีสามพันล้านดอลลาร์นี้ไปใช้สร้างจรวดและเครื่องมือต่างๆแทน ซึ่งเป็นทางเลือกที่ไม่น่าสนใจเท่าไหร่เลย ผู้เชี่ยวชาญทางด้านนโยบายอวกาศกล่าว

  "เพราะว่าโอบามาอยากจะเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศในด้านอวกาศ และการปลดประจำการ ISS เร็วเกินกำหนดนั้นทำให้เรื่องมันยากขึ้นมาก ประเทศสมาชิกที่เข้าร่วมอยู่ตอนนี้จะไม่ชอบใจแน่ๆ" แผนส่วนมากให้5ข้อที่เสนอมาจึงเสนอให้เก็บ ISS ไว้จนถึงปี 2020และยกเลิก Ares1 เพื่อที่จะพึ่งพาจรวดภาคธุรกิจที่นาซ่าเป็นคนส่งเสริมการพัฒนาแทน

ทางเลือกที่สี่มุ่งความสนใจไปที่ดวงจันทร์ โดยเก็บกระสวยอวกาศไว้จนถึงปี 2015 และสร้าง จรวดแรงยกสูงจากชิ้นส่วนของกระสวยอวกาศ ชื่อว่า Ares5 lite ซึ่งมีความสามารถต่ำกว่า Ares5ที่ตั้งไว้ตอนแรก แผน "Moon first" นี้จะปลดประจำการกระสวยอวกาศในปี 2011

ทางเลือกที่ห้า คือหากนาซ่าเลิกมุ่งไปที่ดวงจันทร์และมองไปที่ ดาวหางใกล้โลก จุดสมดุลย์ลากราง หรือการบินสำรวจดาวอังคาร แทน แผนนี่มีชื่อว่า "Flexible path" ซึ่งจะสร้าง Ares5 lite และเพิ่มงบ จรวด Atlas 5 และ Delta4 ที่พัฒนาโดย กองทัพอากาศสหรัฐ แทน

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าววงในของโอบามากล่าวว่า โอบามาชอบแนวคิดที่จะจ้างคนภายนอกมาดูแลระบบในระดับวงโคจรต่ำ แม้ว่ามันจะมีความเสี่ยงอยู่บ้างก็ตาม ขณะนี้เรากำลังพิจารณาอยู่ว่าความเสี่ยงนั้นยอมรับได้หรือไม่

ดูเหมือนว่าธุรกิจเกี่ยวกับอวกาศ จะออกแนวความร่วมมือระหว่างนานาชาติมากขึ้น เอกชนก็มีโอกาศมากขึ้น การท่องเที่ยวอวกาศก็ดูดีมีความหวัง ยักษ์ใหญ่ต้องลดอีโก้แล้วลงมาขอความร่วมมือกับชาวบ้านซะแล้ว คนเหยีบดวงจันท์คนต่อไป อาจจะไม่ได้พูดภาษาอังกฤษก็ได้!

1 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

Gabrielle Giffords ออกมาด่าว่า เมิงคิดยังไงที่จะไปยกเลิกโปรเจค คอนสเลเลชั่น ที่เราเสียทั้งเงินและเวลา ทำไปตั้งมากมาย

Augustine : ผมว่าไอ้แผนที่เรามีอยู่นะ มันก็ดีอยู่หรอก แต่ไม่มีตังค์มันก็ทำไรไม่ได้นะเจ้!

เหตุผลและคำอธิบายอย่างล่ะเอียดคาดว่าจะเสร็จปลายเดือนนี้เพื่อรอโอบามาตัดสินใจต่อไป