วันพฤหัสบดีที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2552

Sun does a flip

วันที่ ๒๕ เดือนกุมภาพันธ์ ปี ๒๕๔๔
มองไปก็ไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับดวงอาทิตย์ของเรา แต่ว่า
นักวิทย์ศาสตร์ได้ออกมาประกาศว่า สนามแม่เหล็กของดวงอาทิตย์นั้น กำลังสลับขั้ว

ขั้วสนามแม่เหล็กเหนือของดวงอาทิตย์ที่เคยอยู่ทางภาคเหนือของดวงอาทิตย์เมื่อไม่กี่เดือนที่แล้ว
ตอนนี้ได้ชี้ไปทางด้านใต้แล้ว มันเป็นเหตุการณ์ที่ล่อแหล่ม แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึง


เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเราอยู่ในช่วงเวลาที่วงรอบของดวงอาทิตย์
อยู่ในช่วงที่สูงที่สุด (Solar Maximum)เดวิด
เฮเธอร์เวย์ นักฟิสิกส์ดวงอาทิตย์ จาก ศูนย์อวกาศการบินมาแชล กล่าว ขั้วแม่เหล็ก(ของดวงอาทิตย์) มีการสลับที่ ณ จุดสูงสุดของวงรอบดวงอาทิตย์ ที่จริงแล้ว
มันเป็นเหตุการณ์ที่ดี ที่จะบ่งชี้ได้ว่า จุดสูงสุดของวงรอบดวงอาทิตย์ ได้มาถึงจริงๆแล้ว



ขั้วแม่เหล็กของพระอาทิตย์จะกลับทิศทางอยู่อย่างนั้น
จนถึงปี ๒๕๕๕ เมื่อมันจะมีการกลับขั้วขึ้นอีกครั้งเมื่อ
จุดสูงสุดของวงรอบดวงอาทิตย์ รอบใหม่มาถึง ทุกๆ ๑๑ ปี

ขั้วแม่เหล็กของโลกเองก็มีการพลิกตัวเช่นกัน
แต่ด้วยช่วงเวลาที่ไม่แน่นอน ช่วงของการกลับขั้วมีช่วงห่างกัน ระหว่าง ๕๐๐๐ ถึง
๕๐ล้าน ปี และการกลับขั้วครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อ ๗๔๐,๐๐๐ ปีก่อน
นักวิจัยบางคนบอกว่า ดาวของเราได้เลยกำหนดการกลับขั้วนั้นมานานแล้ว
และไม่มีใครรู้อย่างแน่ชัดว่า การกลับขั้วครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นอีกทีเมื่อใด

ในขณะนี้
ขั้วแม่เหล็กเหนือของโลกอยู่ทางตอนเหนือของแคนาดา
และนักวิทยาศาสตร์ก็รู้มานานแล้วด้วยว่า ตำแหน่งของขั้วแม่เหล็กนั้นเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา
โดยในศตวรรษที่๒๐ ขั้วแม่เหล็กได้เคลื่อนที่ไปทางทิศเหนือ
ประมาณ ๑๐ กิโลเมตรต่อปี และเร็วนี้ ได้เพิ่มความเร็วขั้นเป็น
ประมาณ๔๐กิโลเมตรต่อปี
นี้จะทำให้เข็มทิศในแอฟริกา เปลี่ยนไป ๑องศาใน๑ ศตวรรษ



แม่เหล็กโลกเกิดขึ้นจาก
ทะเลของเหล็กเหลวที่อยู่บนแกนโลกที่มีความร้อนสูง
และการหมุนของโลกทำให้เกิดการหมุนของทะเลนี้
นี้เองทำให้เกิดการเคลื่อนที่อันซับซ้อนขึ้น
และเหนี่ยวนำให้เกิดขั้วแม่เหล็กโลกขึ้นมา โดยกระบวนการที่เรียกว่า
กระบวนการไดนาโม


แกลตซาเมียร์ (Glatzmaier)ได้ทำแบบจำลองโครงสร้างภายในแกนโลกขึ้นเพื่อหาผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นต่อแกนแม่เหล็กโลก
จากการทำการจำลองโดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ แสดงให้เห็นว่า สนามแม่เหล็กมีการเพิ่มขึ้นลดลง และกลับขั้วเป็นบางครั้ง การเปลี่ยนแปลงนั้น เป็นเรื่องปกติ แกลตซาเมียร์ (Glatzmaier) กล่าว

พวกเขายังเรียนรู้อีกด้วยว่า อะไรจะเกิดขึ้นเมื่อขั้วแม่เหล็กมีการเปลี่ยนแปลง การกลับขั้วกินเวลากว่าพันปี
และระหว่างนั้น ขัดกับความเชื่อเดิมๆ สนามแม่เหล็กไม่ได้หายไป
มันเพียงแค่ซับซ้อนขึ้นเท่านั้น แกลตซาเมียร์ กล่าว เส้นแรงแม่เหล็กมีการบิดเบี้ยงและพันกัน ขั้วแม่เหล็กโผล่ขึ้นมาในที่ๆแปลกประหลาด ขั้วแม่เหล็กโลกใต้อาจอยู่ที่ แอฟริกา หรือขั้วแม่เหล็กเหนืออาจอยู่ที่ตาฮิติ
แต่ว่าสนามแม่เหล็กของโลกยังคงมีอยู่ และมันจะยังคงปกป้องเราจากรังสีในอวกาศและพายุสุริยะ



นอกจากนี้ เกราะป้องกันหลักของเรา จากรังสีต่างๆ ไม่ใช่สนามแม่เหล็ก แต่เป็นชั้นบรรยากาศของโลก สังเกตุว่า แม้ในปัจจุบันในที่ๆไม่มีสนามแม่เหล็กมาปกป้อง บริเวณขั้วสนามแม่เหล็กโลก
ก็ได้รับรังสีสูงกว่าพื้นที่ทั่วไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ไม่มีความคิดเห็น: