วันพุธที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2552

Round trip with endeavor

เร็วๆนี้กระสวยอวกาศ เอ็นเดฟเวอร์ ( Endeavour )ของนาซ่าได้กลับมาสู่ ศูนย์จัดการกระสวยอวกาศ ( Orbiter Processing Facility, OPF) ที่ ศูนย์อวกาศแคเนดี้ (NASA’s Kennedy Space Center) ในฟลอริดา หลังจากประสบความสำเร็จในภารกิจเดินทางไปสู่สถานีอวกาศนานาชาติ( international space station, ISS)




การที่กระสวยอวกาศนี้เป็นยาวอวกาศที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ก็ต้องมีกระบวนการที่จะ เตรียมพร้อม ดำเนินการ และ นำกลับเอ็นเดฟเวอร์ได้ผ่านกระบวนการเหล่านี้มา 22ครั้งแล้ว ตั้งแต่ปี1992 และที่จะนำเสนอก็คือภาพทั้งหมดในหนึ่งกระบวนการที่ว่าของกระสวยอวกาศลำหนึ่งๆ เริ่มจากการลงจอดจากภารกิจที่แล้ว(STS-123) ในวันที่ 26 มีนาคม และจบลงด้วยการกลับมาที่ฟลอริดา 9เดือนหลังจากนั้น (กับอีก 6.6ล้านไมล์) (10.62ล้านกิโลเมตร ,ผู้แปล) และต่อด้วยภารกิจ STS-126




ในการนำเครื่องลงตอนกลางคืนครั้งที่16ที่ ศูนย์อวกาศแคเนดี้ กระสวยอวกาศ เอ็นเดฟเวอร์ได้ลงสู่รันเวย์ที่15 เพื่อจบภารกิจ STS-123 ในวันที่26มีนาคม 2551 ซึ่งเป็นการบินสู่สถานีอวกาศนานาชาติเป็นเวลา 16วัน ภารกิจจบลงด้วยระยะทางเกือบ 6.6ล้านไมล์ (10.62ล้านกิโลเมตร ,ผู้แปล) ภารกิจ STS-123ได้ทำการส่งชิ้นส่วนแรกของ ห้องทดลอง คิโบะ( kibo laboratory) ขององค์การอวกาศญี่ปุ่น(Japan Aerospace Exploration Agency) และ ระบบแขนกลสองแขนของ องค์การอวกาศแคนาดา ที่ชื่อ เด็กซ์เตอร์ (Dextre)




อีกไม่นาน เอ็นเดฟเวอร์จะถูกส่งไปยัง ศูนย์จัดการกระสวยอวกาศ ( Orbiter Processing Facility, OPF) เพื่อเตรียมความพร้อมในภารกิจต่อไป STS-126 (NASA/Tom Joseph)




ในศูนย์จัดการกระสวยอวกาศ หลุมที่2 ช่างกำลังเคลื่อนย้ายเครื่องยนต์หลักที่หนึ่งโดย ฮิสเตอร์โฟล์กลิฟท์(ประเภทของโฟล์กลิฟท์มั้งครับ - -“) เพื่อที่จะประกอบลงบนเอ็นเดฟเวอร์ในวันที่ 30 มิถุนายนต์ 2008 (NASA/Jim Grossmann)

ในศูนย์จัดการกระสวยอวกาศ หลุมที่2 ใน ศูนย์อวกาศแคเนดี้ ช่างจาก United Space Alliance technician ติดตั้งอะไหล่ฉนวน 18 ของโบอิง หรือ BRI-18 แผ่นกระเบื้องบนกระสวยอวกาศ เฮ็นเดฟเวอร์ ระหว่างการเตรียมการในวันที่ 19 กรกฏา 2551

BRI-18 เป็นวัสดุที่แข็งแรงที่สุดที่ใช้เป็นฉนวนกันความร้อนในกระสวยอวกาศและเมื่อเคลือบเพื่อความแข็งแรงแล้วทำให้ก้อนอิฐนี้มีความทนทานต่อการกระแทกได้สูงมากๆๆอิฐพวกนี้จะนำไปใส่ไว้ในที่ๆพาหนะมีความเสี่ยงสูงที่จะที่จะโดนกระแทก เช่นประตูอุปกรณ์ลงจอด ขอบปีกที่อยู่ส่วนหน้า และประตูถังเชื้อเพลิงภายนอก (NASA/Jack Pfaller)

ในศูนย์จัดการกระสวยอวกาศ หลุมที่2 ใน ศูนย์อวกาศแคเนดี้ คริส เฟอร์กูสัน (นามสกุล คุ้นๆ?) กำลังตรวจสอบฮาร์แวร์ภายในกระสวยอวกาศเอ็นเดฟเวอร์ ในวันที่ 1 สิงหาคม 2551 สมาชิกของกระสวยอวกาศเอ็นเดฟเวอร์ ในภารกิจ STS-126 จะมายัง ศูนย์อวกาศแคเนดี้ เพื่อเข้าร่วมทดสอบการใช้งานอุปกรณ์ของลูกเรือ ( Crew Equipment Interface Test, CEIT) เพื่อเพิ่มประสบการณ์ในการใช้เครื่องทือ อุปกรณ์ และฮาร์ดแวร์ที่จะใช้ในภารกิจ เอ็นเดฟเวอร์จะทำการส่ง multipurposelogistic module(คิดชื่อเป็นภาษาไทยไม่ออก - -“) ไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ ในภารกิจ STS-126 กำหนดการส่งในวันที่ 10 พฤษจิกายน 2551 (NASA/Kin Shiflett)

คนงานเดินร่วมไปกับ กระสวยอวกาศเอ็นเดฟเวอร์ ตอนที่มันเคลื่อนไปยัง โรงประกอบชิ้นส่วน(Vehicle AssemblyBuilding,VAB,ข้อมูลเพิ่มเติมhttp://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X7308097/X7308097.html ) ที่ศูนย์อวกาศเคเนดี้ ในวันที่ 11 กันยายน 2551 ในโรงประกอบ เอ็นเดฟเวอร์จะถูกประกอบเข้ากับถังเชื้อเพลิงภายนอกและจรวดเชื้อเพลิงแข็งคู่ หลังจากการเตรียมการอื่นๆอีกเล็กน้อย กระสวยก็จะถูกเคลื่อนย้ายไปยังฐานปล่อย 39B เอ็นเดฟเวอร์เคยถูกให้เป็นกระสวยอวกาศสำรอง เผื่อเอาไว้กู้ภัย สำหรับกระสวยอวกาศ แอตแลนติส ในภารกิจ STS-125 เพื่อเดินทางไปยังกล้องโทรทัศน์ฮับเบิลที่วางแผนไว้ที่เดือนตุลาคม(ซึ่งถายหลังถูกเลื่อนไปเป็นปี2552) (NASA/Troy Cryder)


กระสวยอวกาศถูกยกขึ้นจากรถขนส่ง โดยเครนเหนือหัว ในส่วนขนย้ายของ โรงประกอบกระสวยอวกาศ ในศูนย์อวกาศเคเนดี้ ในวันที่ 11 กันยายน 2551 กระสวยจะถูกยกไปที่ high bay1 เพื่อที่จะประกบเขากับถังเชื้อพเลิงภายนอกและจรวดเชื้อเพลิงแข็ง หลังจากการเตรียมความพร้อมอีกเล็กน้อย กระสวยจะถูกขนส่งไปยังฐานปล่อย 39B (NASA/Kim Shiflett)

จากมุมนี้ มองขึ้นไปยังกระสวยอวกาศเอ็นเดฟเวอร์ ที่ถูกหย่อนลงมาอย่างช้าๆสู่ high
bay1
ในโรงประกอบที่ศูนย์อวกาศเคเนดี้ เพื่อที่จะประกบเข้ากับถังเชื้อเพลิงภายนอกและจรวดเชื้อเพลิงแข็งของมัน ภาพถ่ายเมื่อ 11กันยายน 2551 (NASA/Kim Shiflett)


ที่ศูนย์อวกาศเคเนดี้ ช่างเทคนิคกำลังตรวจสอบความเรียบร้อยของกระสวย ขณะที่มันถูกหย่อนลงสู่ high bay1 ของโรงประกอบ ในวันที่ 11 กันยายน 2551เพื่อที่จะประกบเข้ากับ ถังเชื้อเพลิงภายนอกและจรวดเชื้อเพลิงแข็งที่รออยู่ด้านล่าง (NASA/Kim Shiflett)

กระสวยอวกาศ แอตแลนติสตั้งอยู่บนฐานปล่อยเอ และ เอ็นเดฟเวอร์ตั้งอยู่ที่ฐานปล่อยบี ที่ศูนย์อวกาศเคเนดี้ ฟลอริดา ในวันที่20 กันยายน 2551 ในทางซ้ายของกระสวยจะมีโครงสร้างหมุนได้พร้อมกับส่วนโอนถ่ายสัมภาระให้เห็น ส่วนโครงสร้างสนับสนุนหมุนได้ (Rotating sevice structure)
ให้การปกป้องกระสวยอวกาศจากสภาพอากาศและให้สามารถทำให้เข้าถึงกระสวยอวกาศด้วย เป็นครั้งแรกหลังจาก เดือนกรกฏาคม
2544 ที่กระสวยอวกาศทั้งสองอยู่บนฐานปล่อยในเวลาเดียวกันที่จุดศูนย์กลาง เอ็นเดฟเวอร์จะสแตนด์บายที่ฐานปล่อยบี เผื่อในกรณีที่จะต้องดำเนินภารกิจกู้ภัยเมื่อจำเป็น ระหว่างที่กระสวยอวกาศ แอตแลนติสทำภารกิจที่กำลังจะมาถึง คือ การซ่อมกล้องโทรทัศน์อวกาศฮับเบิ้ล กำหนดการปล่อยในเดือนตุลาคม

ณ ศูนย์อวกาศเคเนดี้ในฟลอริด้า กระสวยอวกาศเอ็นเดฟเวอร์ เคลื่อนที่ขึ้นสู่ฐานปล่อย 39A เมื่อวันที่ 23ตุลาคม 2551 กระสวยอวกาศถูกเคลื่อนมาที่ 39A จากฐานปล่อย 39B ที่ๆมันถูกวางไว้ตอนแรกเพื่อภารกิจช่วยเหลือ สำหรับภารกิจที่ตอนนี้ได้ถูกเลื่อนกำหนดออกไปแล้วของ แอตแลนติส STS-125 เอ็นเดฟเวอร์ถูกขนย้ายไปยังฐานปล่อย 39A และมีกำหนดการปล่อย ในวันที่ 14พฤศจิกายน ในภารกิจ STS-126 ภารกิจสู่สถานีอวกาศนานาชาติครั้งที่ 27 (NASA/ Kim Shiflett)

ฐานปล่อย 39A ที่ศูนย์อวกาศเคเนดี้ ฟลอริด้า แขนต่อกับกระสวยอวกาศและห้องสีขาวถูกยื่นเข้าหากระสวยอวกาศเอ็นเดฟเวอร์หลังจากทำการหมุน โครงสร้างสนับสนุนหมุนได้ในวันที่ 14พฤศจิกายน 2551
โครงสร้างสนับสนุนหมุนได้นี้ให้การเข้าถึงสู่กระสวยอวกาศอย่างได้รับการปกป้อง
(จากฝุ่นละออง และเชื้อโรค)เพื่อขนย้ายสัมภาระและซ่อมบำรุง ที่ฐานปล่อย แขนต่อกับกระสวยอวกาศและห้องสีขาวนี้ตั้งอยู่บนสะพานหมุนได้ที่หมุนรอบแกนแนวตั้งที่อยู่ด้านตะวันตกของรั้วกันไฟของฐานปล่อย(NASA/Kim Shiflett )
ในห้องสีขาวบนฐานปล่อย 39A ที่ศูนย์อวกาศเคเนดี้ที่ฟลอริด้า ผู้เชี่ยวชาญภารกิจของ STS-126 Shane
Kimbrough
กำลังถูกช่วยเหลือโดยช่างเทคนิคในการใส่เครื่องแบบและอุปกรณ์ในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2551 ที่เห็นด้านหลังก็คือสมาชิกทีมอีกคนนึงที่กำลังรอที่จะเข้าสู่กระสวยอวกาศเอ็นเดฟเวอร์
STS-126 เป็นการบินครั้งที่ 124 และเป็นการบินครั้งที่ 27 สู่สถานีอวกาศนานาชาติ (NASA/SandraJoseph-Kevin O’connel)

ควันและไอน้ำถูกแสงกระทบ พวยพุ่งออกจากฐานปล่อย 39A ที่ศูนย์อวกาศเคเนดี้ ขณะที่ เอ็นเดฟเวอร์พุ่งทะยานสู่ท้องฟ้ายามค่ำคืนในภารกิจ STS-126 ในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2551 การทะยานขึ้นเป็นไปตามกำหนดการณ์เมื่อ 7.55 pm EST (NASA/Sandra Joseph-Kevin O’connel)
จากการแถลงข่าวจากนาซ่า กระสวยอวกาศเอ็นเดฟเวอร์ จะเข้าใกล้สถานีอวกาศนานาชาติก่อนที่จะเข้าไปจอดเทียบในขณะที่อยู่ในวงโคจร วันที่ 16 พฤศจิกายน 2551 ภารกิจ 15 วันสู่สถานีอวกาศนานาชาติรวมไปถึงนำสิ่งของที่จำเป็นและ space walk สี่ครั้ง

บนโลก เรือเก็บจรวดเชื้อเพลิงแข็งของนาซ่า ฟรีด้อมสตาร์ ลากหนึ่งในจรวดขับดันที่ใช้แล้วจากกระสวยอวกาศเอ็นเดฟเวอร์เมื่อวันที่ 14พฤศจิกายน 2551ในภารกิจ STS-126 เรือนี้จะนำจรวดที่ใช้แล้วไปยัง Hangar AF ที่ฐานทัพอากาศ เคพคานาเวอรัล ฟลอริด้า เปลือกนอก และชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องของจรวดขับดันเชื้อเพลิงแข็ง จะถูกเก็บขึ้นมาจากทะเล จรวดขับดันจะตกลงมาสู่ทะเลแอตแลนติก ประมาณ7นาทีหลังจากการบินขึ้น พื้นที่น้ำที่กระเด็นเป็นรูปสี่เหลี่ยมประมาณ 6x9 ไมล์ทะเล ที่ระยะประมาณ 140ไมล์ทะเลจากฐานปล่อย (NASA/Kim Shiflett)
ร่มชูชีพ ถูกเก็บขึ้นมาจากทะเลหลังจากการส่งกระสวยอวกาศเอ็นเดฟเวอร์ ภายใต้ภารกิจ STS-126
ถูกแขวนอยู่กับรางเดี่ยวภายในศูนย์ฟื้นฟูร่มชูชีพในศูนย์อวกาศเคเนดี้ ฟลอริด้า ร่มชูชีพใช้เพื่อลดความเร็วของจรวดขับดันเชื้อเพลิงแข็งที่ถูกดีดออกมาระหว่างการทะยานขึ้นของกระสวยอวกาศ ระบบรางเดี่ยวนี้จะนำร่มชูชีพไปยังเครื่องซักขนาด
30,000แกลลอน และอบแห้งด้วยอากาศอุณหภูมิ 140องศาที่ 13,000 ลูกบาศฟุตต่อนาที หลังจากร่มชูชีพได้รับการทำความสะอาดและจัดเตรียมแล้ว มันจะถูกนำกลับเข้าสู่ถุงของมันอย่างระมัดระวังเพื่อที่มันจะกางออกอย่างปลอดภัยในครั้งต่อไปที่มันจะถูกใช้(NASA/Jim Grossmann)

มีสีฟ้าและขาวของโลกและสีดำมืดของห้วงอวกาศเป็นฉากหลัง จะเห็น leonado multi-purpose logistic module ในที่เก็บสัมภาระของกระสวยอววกาศเอ็นเดฟเวอร์ เครื่องปรับสมดุลย์แนวตั้ง(ที่เป็นกรวยสีขาวด้านซ้ายและขวาของกระสวย,ผู้แปล) และส่วนควมคุมการเคลื่อนที่ในวงโคจร (orbital maneuvering system,OMS) (ส่วนเครื่องยนต์และหางเสือที่อยู่ด้านหลัง,ผู้แปล) สามารถเห็นได้จากรูปนี้ที่ถ่ายโดยสมาชิกของ STS-126ในวันที่16 พฤศจิกายน 2551 (NASA)
ผู้เชี่ยวชาญภารกิจของกระสวยอวกาศเอ็นเดฟเวอร์Steve Bowen (กลาง) ปรากฏในรูปนี้ ในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2551 ขณะที่เขากำลังทำงานอยู่ที่ส่วน starboard truss ของกระสวยอวกาศนานาชาติ
ระหว่างหนึ่งในสี่ของ 
spacewalk ที่วางแผนไว้ สำหรับภารกิจ STS-126.

เปิดรูรับแสงของกล้องนานสามสิบวินาที ปรากฏให้เห็นแนวการเดินทางของสถานีอวกาศนานาชาติและกระสวยอวกาศเอ็นเดฟเวอร์ที่จอดเทียบอยู่ ในขณะที่ยานอวกาศทั้งสองกำลังเคลื่อนที่ผ่านเหนือเมือง วอเตอร์ทาวน์ วิสคอนซิล ในวันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน 2551 ดาวที่สุกสว่างที่สุดสองดาวในรูปบริเวณกลางล่างคือดาว พฤหัสบดี อยู่ด้านบน และ ดาววีนัสอยู่ด้านล่าง (AP Photo/Watertown Daily Times, John Hart)


ข่าวจากนาซ่า ประตูช่องสัมภาระของกระสวยอวกาศเอ็นเดฟเวอร์เปิดออกก่อนที่จะจอดเทียบกันสถานีอวกาศนานาชาติ ขณะที่อยู่ในวงโคจร วันที่ 16 พฤศจิกายน 2551 (NASA via
Getty Image)

กระสวยอวกาศเอ็นเดฟเวอร์ลงจอดในทะเลทรายโมเจฟที่ฐานทัพอากาศใกล้กับ โรซาม่อน แคลิฟอเนียร์ แทนที่จะเป็นศูนย์อวกาศเคเนดี้ ในฟลอริด้า เพราะว่าสภาพอากาศที่แย่ลงเรื่อยๆในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2551 การลงจอดนี้ถือเป็นการเสร็จสิ้นภารกิจ STS-126 สู่สถานีอวกาศนานาชาติ ในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2551 เพื่อเตรียมสถานีอวกาศนานาชาติสำหรับภารกิจระยะยาว (David Mcnew/Getty Images)

ร่มชูชีพกางออกในขณะที่กระสวอวกาศเอ็นเดฟเวอร์ลงจอดที่ฐานทัพอากาศเอ็ดเวิร์ด ในวันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน 2551 ในฟลอริด้า (AP Photo/ Mark J.Terrill)

ที่ฐานทัพอากาศเอ็ดเวิร์ด ในฟลอริด้านักข่าวและช่างภาพล้อมรอบสมาชิกทีมของภารกิจ STS-126 ก่อนที่พวกเขาจะเดินทางสู่ ศูนย์อวกาศจอห์นสัน ในฮูสตัน วันที่1 ธันวาคม 2551 ลูกทีมใช้เวลากับสื่อก่อนที่จะออกเดินทาง (NASA/Tony Landis,VAFB)

อาบด้วยแสงอันสว่างจ้าในขณะพระอาทิตย์ตก Mike Mangione จาก United Space Alliance ใส่ฝาครอบให้กับตัวติดตามดวงดาว ( Stat tracker, เป็นอุปกรณ์นำทางชนิดนึงใช้ตรวจสอบตำแหน่งของดาวเพื่อค้นหาตำแหน่งและทิศทางของกระสวยฯ,ผู้แปล) ที่อยู่ในจมูกของกระสวยอวกาศเอ็นเดฟเวอร์ ภายในอุปกรณ์
เชื่อมต่อ
-ปลดออก เพื่อเตรียมความพร้อมในการประกบมันเข้ากับNASA 747 ในการเดินทางขากลับของมันสู่ ฟลอริด้า, จาก ฐานทัพอากาศเอ็ดเวิร์ด ในฟลอริด้า วันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม 2551 (AP Photo/Reed
Saxon)

สดๆจากภารกิจ STS-126 กระสวยอวกาศได้ถูกหิ้วไปบนหลังของ โบอิ้ง 747ที่ถูกปรับแต่ง
บินเหนือทะเลทรายโมเจฟของแคลิฟอเนีย ระหว่างการเดินทางสามวันกลับสู่ศูนย์อวกาศเคเนดี้ในฟลอริด้าในวันที่
10ธันวาคม 2551




เจ้าหน้าที่จากนาซซ่าแถลงในวันที่ 17 ธันวาคม 2551 ว่านาซ่ากำลังคิดหาที่และวิธีการที่จะแสดงกระสวยอวกาศของเขาเมื่อมันหยุดบินในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ โปรดระวัง! นาซ่าประเมินราคาว่าน่าจะเท่ากับ 42ล้านเหรียญ ที่จะเตรียมกระสวยให้พร้อมก่อนที่จะพามันไปยังที่ๆมันควรจะไป และราคาสุทธิอาจสูงขึ้นกว่านี้มาก การประมาณนี้รวมค่าขนส่งกระสวยอวกาศนี้ไปบนเครื่องบินขนส่งที่ได้รับการปรับแต่งไปสู่ท่าอากาศยานหลักที่ใกล้ที่สุดแล้ว

ผู้คนรอชมขณะที่กระสวยอวกาศเอ็นเดฟเวอร์ บนเครื่องบินโบอิ้ง 747ที่ได้รับการปรับแต่ง ขนส่งมันข้ามประเทศจากแคลิฟอเนียเตรียมพร้อมที่จะร่อนลงบนรันเวย์หลังจากที่กลับสู่ศูนย์อวกาศเคเนดี้ ในวันที่ 12ธันวาคม 2551 ที่แหลมคานาเวอรัล ฟลอริด้า (Joe Raedle/Getty Image)

กระสวยอวกาศเอ็นเดฟเวอร์เดินทางกลับบน อากาศยาน NASA747 สู่ศูนย์อวกาศเคเนดี้ที่แหลม คานาเวอรัล ฟลอริด้า 12ธันวาคม 2551 (REUTERS/NASA/Handout)

อากาศยานขนส่งกระสวยอวกาศ (Shuttle Carrier Aircraft,SCA) และผู้โดยสารที่อยู่บนหลังของมัน
กระสวยอวกาศเอ็นเดฟเวอร์ ได้เตรียมการเข้าสู่อุปการณ์ เชื่อมต่อ
-ปลดออก ที่ Shuttle landing facility ทีศูนย์อวกาศเคเนดี้ ที่ฟลอริด้า อุปกรณ์นี้จะยกกระสวยอวกาศออกและยกมันลงมาสู่พื้น (NASA/Kim Shiflett)

หลังมืด ที่ Shuttle landing facility หรือ SLF ที่ศูนย์อวกาศเคเนดี้ ฟลอริด้า กระสวยอวกาศเอ็นเดฟเวอร์ถูกเชื่อมโยงกับสลิงที่จะยกมันออกจากอากศยานขนส่งกระสวยอวกาศ ที่อยู่ข้างล่าง หลังจากที่เอ็นเดฟเวอร์อยู่บนพื้นแล้ว มันจะถูกลากจูงผ่านเส้นทางยาวสองไมล์ (3.21 กิโลเมตร,ผู้แปล) โดยรถแทรกเตอร์เครื่องยนต์ดีเซล สู่ ศุนย์ดำเนินการกระสวยอวกาศ ที่ๆมันจะถูกเริ่มเตรียมความพร้อมสู่ภารกิจต่อไป STS-127 กำหนดไว้ตรงกับเดือน พฤษภาคม 2552 (NASA/ Jim Grossmann)

ก่อนเช้า ที่ Shuttle landing facility ที่ ศูนย์อวกาศเคเนดี้ ฟลอริด้า กระสวยอวกาศเอ็นเดฟเวอร์ ถูกห้อยอยู่โดยสลิงภายใต้อุปกรณ์ เชื่อมต่อ-ปลดออก อากาศยานขนส่งยานกระสวยอวกาศ ที่เห็นในรูป พึ่งถอยออกไป (NASA/ Jim Grossmann)

กระสวยอวกาศเอ็นเดฟเวอร์ถูกลากจูงโดยรถแทรกเตอร์เครื่องยนต์ดีเซล สู่ศูนย์ดำเนินการกระสวยอวกาศ (Orbiter Processing Facillity, OPF) ที่ ศูนย์อวกาศเคเนดี้ ฟลอริด้า ในวันที่ 13ธันวาคม2551 ในศูนย์ดำเนินการกระสวยอวกาศเอ็นเดฟเวอร์จะเริ่มเตรียมการ์สู่ภารกิจต่อไปของมัน STS-127 กำหนดไว้ตรงกับเดือน พฤษภาคม 2552 (NASA/JackPfaller)

ไม่มีความคิดเห็น: